|
|
|
ความเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรม การสร้างสมบุญบารมีในกิจการทางศาสนาพุทธนั้น เป็นสิ่งที่ชาวตำบลบ้านเต่าให้ความสำคัญ งานบุญงานกุศลใดก็ตาม จะได้รับความร่วมมือจากทุกคนเป็นอย่างดี ด้วยความเชื่อว่าหากสร้างสมบุญได้มาก ก็จะทำให้สบายใจและมั่นใจได้ว่า ภพชาติหน้าตนจะมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป โดยส่วนใหญ่แล้วประเพณีหรือ |
|
|
|
พิธีกรรม ของชาวตำบลบ้านเต่าจะเป็นประเพณีเกี่ยวกับ
การประกอบอาชีพทางการเกษตรและศาสนา ที่เด่นชัดที่สุด คือ ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการทำนา โดยถือปฏิบัติตามประเพณี หรือขนบธรรมเนียมโบราณ
เรียกว่า “ฮีต 12” มีดังนี้ |
|
|
เดือนหนึ่ง (เดือนอ้าย) - บุญเข้ากรรม |
|
เดือนสอง (เดือนยี่) – บุญคูณลาน / บุญคูนข้าว / บุญกุ้มข้าว |
|
|
เดือนสาม - บุญข้าวจี่ |
|
เดือนสี่ - บุญผะเหวด |
|
|
เดือนห้า - บุญสงกรานต์ / บุญสรงน้ำ |
|
เดือนหก - บุญบั้งไฟ |
|
|
เดือนเจ็ด - บุญซำฮะ (ชำระ) |
|
เดือนแปด - บุญเข้าพรรษา |
|
|
เดือนเก้า - บุญข้าวประดับดิน |
|
เดือนสิบ - บุญข้าวสาก |
|
|
เดือนสิบเอ็ด – บุญออกพรรษา |
|
เดือนสิบสอง - บุญกฐิน |
|
|
|
|
ภูมิปัญญาท้องถิ่นของตำบลบ้านเต่า |
เป็นภูมิปัญญาที่ชาวบ้านคิดขึ้น และนำมาใช้ในการแก้ปัญหา เป็นเทคนิควิธี-องค์ความรู้ของชาวบ้าน
ทั้งทางกว้างและทางลึกที่ชาวบ้านคิดเอง ทำเอง โดยอาศัยศักยภาพที่มีอยู่ แก้ปัญหาการดำเนินชีวิตในท้องถิ่น ได้อย่างเหมาะสมกับยุคสมัย |
|
|
|
ซึ่งได้สืบทอดและเชื่อมโยงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ภูมิปัญญาของตำบลบ้านเต่าที่ยังคงหลงเหลือ และสืบทอดต่อๆ กันมาเป็นภูมิปัญญาเกี่ยวกับ
กระจ้ำ (ผู้นำจิตวิญญาณ) คือ ผู้ที่มีความรู้ในด้านหมอพราหมณ์ เป็นผู้นำในการประกอบพิธีต่างๆ ในหมู่บ้าน รวมถึงบวงสรวงเสี่ยงทายโดยใช้ไม้ทำนายฟ้าฝน
เล่ากันว่าในพิธีทำนายโดยใช้ไม้ทำนายฟ้าฝนนี้ กระจ้ำจะเก็บเศษไม้ยาวประมาณ 1 วา แถวบริเวณพิธี มาใช้เสี่ยงทาย เรียกว่า การเสี่ยง “ไม้วา ”
รวมทั้งทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ทำพิธีปัดรังควาน ซึ่งในทุกหมู่บ้านจะมี กระจ้ำ และเป็นผู้เสี่ยง ทำนายในหมู่บ้าน |
|
ภาษาถิ่นของตำบลบ้านเต่า |
|
มีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาที่พูดที่ใช้กันในประเทศลาว เป็นภาษาของคนส่วนใหญ่ เป็นภาษาพูด เรียกว่า “ภาษาอีสานหรือภาษาไทยอีสาน”
แต่ภาษาอีสานก็ยังถือว่าเป็นภาษาถิ่นของภาษาไทย ในปัจจุบันชาวตำบลบ้านเต่าโดยเฉพาะวัยรุ่นได้หันมาใช้ภาษาไทยกลางกันมากขึ้น เพราะวัยรุ่นเหล่านี้ส่วนใหญ่
ได้รับการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับคนในภาคกลางหรือกรุงเทพมหานคร แต่คนทั่วไปและคนเฒ่าคนแก่ยังใช้ภาษาอีสานกันเป็นภาษาหลักอยู่ ทั้งนี้ชาวตำบลบ้านเต่าส่วนใหญ่
จะสามารถสื่อสารได้ทั้งภาษาอีสานของท้องถิ่นตนเองและภาษาไทยกลาง ชาวตำบลบ้านเต่าที่ไปต่างถิ่นนอกจากจะหางานทำแล้วก็ยังมีการเผยแพร่วัฒนธรรม
รวมทั้งภาษาของตนเองไปในตัว จะเห็นได้จากในปัจจุบันชาวไทยจำนวนมากเริ่มเข้าใจภาษาอีสาน ทั้งจากเพลงลูกทุ่งภาษาอีสานหรือเพลงหมอลำที่ได้รับความนิยม
และจากคนรอบตัวที่เป็นคนอีสาน ทำให้ภาษาอีสานยังคงสามารถสืบสานต่อไป |
|
|
|
|
ผ้าไหมทอมือของกลุ่มเลี้ยงหม่อนไหม บ้านสะเดา (ม.9) ถือเป็นสินค้าพื้นเมืองของตำบลบ้านเต่าที่มีความสวยงาม แต่ยังต้องมีการส่งเสริมให้กลุ่ม
ได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย และตรงกับความต้องการของผู้บริโภคด้วย ปัจจุบันศูนย์พัฒนาหม่อนไหมชัยภูมิ ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านเต่า |
|
|
|
ส่งเสริมให้สมาชิกในกลุ่มมีความเข้มแข็งมากขึ้น ประกอบกับผ้าไหมเป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดมากพอสมควร
มีนางทองวิลา ทองดี เป็นประธานกลุ่มเลี้ยงหม่อนไหม นอกจากผลิตภัณฑ์ผ้าไหมทอมือแล้ว ตำบลบ้านเต่า ยังมีกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเสื่อกก ซึ่งมีนางเสมอ
โชคบัณฑิต เป็นประธานกลุ่ม |
|
ตำบลบ้านเต่า ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริมจากเทศบาลตำบลบ้านเต่า ในการส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชน อีกหลากหลายไว้คอยต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือน |
|
|
|
|